วันความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension Day)
โดย Omron Thailand, 17 Oct 2020
รู้จักกับ 17 พ.ค. วันความดันโลหิตสูงโลก (World Hypertension Day)
“ฆาตกรเงียบ” ที่สามารถป้องกันได้ด้วยเครื่องวัดความดัน
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา สมาพันธ์กรมความดันโลหิตสูงโลก (WHL) ได้กำหนดให้วันที่ 17 พฤษภาคมของทุกปี เป็น “วันความดันโลหิตสูงโลก” (World Hypertension Day) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนตระหนักรู้ถึงความอันตราย และเตรียมตัวป้องกันโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจต่อไป
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ขนานนาม โรคความดันโลหิตสูงเอาไว้ว่ามันคือ “ฆาตกรเงียบ” (Silience Killer) สาเหตุก็มาจากการที่โรคความดันโลหิตสูงสามารถเข้ามาทำลายสุขภาพร่างกายของมนุษย์ และคร่าชีวิตของผู้คนทั่วโลกได้เป็นจำนวนมาก เมื่อความดันเลือดในร่างกายสูบฉีดไปสู่หัวใจสูงกว่าปกติ ซึ่งมันจะไม่แสดงอาการของโรคออกมาก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย ทำให้กว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว ระดับความดันในเลือดก็สูงจนเกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคหลอดสมอง (Stroke) โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Heart Disease) โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน เป็นต้น
วันความดันโลหิตสูงโลก จะมีธีม (Theme) หลักคือ “Know Your Numbers” นั่นก็คือการถามเพื่อให้คนได้ตระหนักรู้ถึงตัวเลขค่าระดับความดันโลหิตของตัวเอง
แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไวรัส COVID-19 ทำให้องค์กร WHL เลื่อนการฉลองวันความดันโลหิตสูงโลกจากวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ไปเป็นวันที่ 17 ตุลาคม 2563 แทน โดยในปีนี้มีคำขวัญที่ว่า “Measure Your Blood Pressure, Control it, Live Longer” หรือ “วัดค่าความดัน, ควบคุมมัน, ชีวิตยืนยาว”
ทำความรู้จักกับโรคความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ในปัจจุบัน ชีวิตของประชากรเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง เร่งรีบ ทำให้ผู้คนไม่มีเวลาสำหรับการดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง บวกเข้ากับความเครียด และความกดดันจากหน้าที่การงาน การพักผ่อนไม่เพียงพอ นำไปสู่สภาวะของระดับความดันเลือดที่สูงกว่าระดับปกติ หรือที่เรียกกันว่า โรคความดันโลหิตสูงนั่นเอง
โดยทั่วไปผู้ที่มีความดันเลือดปกติ จะสามารถวัดค่าความดันออกมาได้ที่ 120/80 มิลลิเมตรปรอท แต่ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง กรณีที่วัดที่โรงพยาบาล จะวัดค่าความดันได้ตั้งแต่ 140 / 90 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และกรณีวัดที่บ้าน จะวัดค่าความดันได้ตั้งแต่ 135 / 85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นสภาวะที่ควรจะได้รับการควบคุมตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะ ผู้ที่มีสภาวะความดันโลหิตสูงจะมีสุขภาพร่างกายที่ย่ำแย่ลง ส่งผลต่อการทำงาน และเสี่ยงต่อการมีโรคหัวใจแทรกซ้อนต่าง ๆ จนอาจนำไปสู่ความตายได้
ในการวัดค่าความดันโลหิต จะต้องได้ถูกวัดโดยเครื่องวัดความดัน (Blood pressure moniter) จะมีการวัดค่าออกมา 2 อย่าง นั่นก็คือ ค่าบน (Systolic) และค่าล่าง (Disastolic) ในหน่วย มิลลิเมตรปรอท (mmHg) โดยตัวเลขค่าบน คือค่าความดันในหลอดเลือดที่เกิดขึ้นขณะหัวใจบีบตัว ไล่เลือดออกจากหัวใจ ส่วนตัวเลขค่าล่าง คือค่าความดันของเลือดที่ยังค้างในหลอดเลือด ในขณะที่หัวใจคลายตัวออก
ระดับความดันเลือดของคนปกติทั่วไป ควรจะมีค่าบนไม่เกิน 120 และ ค่าล่างไม่เกิน 80
ความดันโลหิตสูงระดับ 1
-
ค่าบน 130 - 139 ค่าล่าง 80 - 89 หากใครมีค่าภาวะความดันโลหิตสูงระดับหนึ่งถือว่าร่างกายเริ่มมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ควรรีบพบแพทย์
ความดันโลหิตสูงระดับ 2
-
ค่าบน 140 ขึ้นไป ค่าล่าง 90 ขึ้นไป นี่ถือว่าเป็นภาวะความดันโลหิตสูงระดับ 2 มีอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
ความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤต (Hypertensive crisis)
-
ค่าบนเกิน 180 และค่าล่างเกิน 110 ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจหอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก ปวดร่างกาย รู้สึกอ่อนแรง หัวใจเต้นเร็วเป็นพิเศษ และอาจจะมีความผิดปกติด้านการมองเห็น กรณีมีภาวะความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤตผู้ป่วยควรรีบพบแพทย์ในทันที
สาเหตุ และอาการของโรคความดันโลหิตสูง
สาเหตุของโรคความดันโลหิตสูงนั้นมีอยู่หลากหลาย จน 90 - 95% ของผู้ป่วยไม่สามารถตรวจหาสาเหตุของโลกได้อย่างชัดเจน แต่ทางการแพทย์ได้อธิบายว่าโรคนี้เป็นโรคที่เกิดโดยธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นทางกรรมพันธุ์ และด้วยวัยที่มากขึ้น เช่นพบโรคนี้มากในผู้หญิงอายุตั้งแต่ 40 - 50 ปีขึ้นไป หรือวัยหมดประจำเดือน อีกกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงก็คือกลุ่มผู้ที่มีโรคอยู่แล้ว อย่างเช่น โรคไต โรคหลอดเลือดตีบ โรคทางต่อมหมวดไตยาบางอย่าง
โดยผู้ป่วยที่มีสภาวะความดันโลหิตสูงจะมีอาการเหงื่อตก, วิตกกังวล, มีปัญหาด้านการนอนหลับ, หน้าแดงผิดปกติ ยิ่งผู้ป่วยที่กำลังอยู่ในภาวะความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤตจะมีอาการปวดหัว ปวดหัวใจ และเลือดกำเดาไหลออกมาได้
อย่างที่ทราบกันว่าโรคความดันโลหิตสูง มีชื่อเล่นว่า “ฆาตกรเงียบ” ที่ถ้าหากไม่ได้ทำการวัดค่าความดันอย่างสม่ำเสมอ ก็คงยากที่จะสังเกต
เครื่องวัดความดัน Omron รุ่น HEM-7156 และ HEM-7361T
ผู้ช่วยป้องกัน “ฆาตกรเงียบ” ได้อย่างทันท่วงที
แม้โรคความดันโลหิตสูงจะตรวจจับหาอาการได้ยาก แต่ถ้าหากเรามีเครื่องวัดความดันประจำติดบ้านเอาไว้ เราก็จะสามารถพยากรณ์ได้ทันทีหากเรา หรือคนในครอบครัวจะมีโรคความดันโลหิตสูงขึ้นมา
ออมรอนขอแนะนำ
เครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ Omron รุ่น HEM-7156
เครื่องวัดความดันของ Omron ที่มาพร้อมกับผ้าพันแขนแบบ IntelliWrap สวมใส่ง่าย วัดได้รอบทิศทาง 360 องศา ไม่ต้องกังวลเรื่องการพันผ้าพันแขนแบบผิดวิธีที่อาจจะเป็นสาเหตุในการวัดค่าความดันแบบคลาดเคลื่อนได้ มีความแม่นยำในการวัดค่าความดันเช่นเดียวกับการที่ไปวัดความดันโลหิตที่โรงพยาบาล
เครื่องวัดความดัน Omron รุ่น HEM-7156 ใช้เทคโนโลยี IntelliSense ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของออมรอน ช่วยให้เกิดการบีบรัดแขนที่น้อยลง ทำให้รู้สึกสบายแขนเมื่อวัดความดัน เสริมด้วยสัญลักษณ์ภายในหน้าจออันหลากหลาย ที่จะช่วยให้การใช้งานง่ายดายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
-
สัญลักษณ์แสดงเมื่อพันผ้าได้ถูกต้อง
-
สัญลักษณ์แจ้งเมื่อมีการเคลื่อนไหวขณะวัดความดันโลหิต
-
สัญลักษณ์แสดงการเต้นผิดปกติของหัวใจ
-
สัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อความดันโลหิตสูงเกิดมาตรฐาน (เกิน 135 / 85 mmHg)
-
ค่าเฉลี่ยของค่าความดันที่วัด 2 - 3 ครั้งล่าสุด ภายในระยะเวลา 10 นาที
เครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ Omron รุ่น HEM-7361T
เครื่องวัดความดันโลหิตที่สามารถทำการวัดความดันโลหิต และสามารถตรวจวัดภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว (AFIB) ได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง เครื่องวัดความดันสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 คน เป็นการออกแบบเพื่อคำนึงถึงการใช้งานภายในครอบครัวเป็นหลัก แถมยังสามารถจัดเก็บ และส่งข้อมูลการวัดของผู้ใช้งานแต่ละท่านไปยัง Smart Phone ได้อีกด้วย
จุดเด่นของเครื่องวัดความดันโลหิต Omron รุ่น HEM-7361T อยู่ที่ระบบ Dual Check วัดค่าความดันโลหิตสูง + AFIB ไปพร้อมกันง่าย ๆ ที่บ้าน พร้อมด้วยระบบแจ้งเตือน อันหลากหลาย เสริมความปลอดภัย และสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็น
-
ผ้าพันแขน IntelliWrap สวมใส่ง่าย วัดได้รอบทิศทาง
-
เทคโนโลยี IntelliSense ช่วยลดแรงบีบแขนเมื่อวัดค่าความดัน
-
สัญลักษณ์แสดงการพันผ้าได้ถูกต้อง
-
สัญลักษณ์แสดงการเต้นผิดปกติของหัวใจ
-
สัญลักษณ์แจ้งเตือนเมื่อความดันโลหิตสูงเกินมาตรฐาน (เกิน 135 / 85 mmHg)
-
Application Omron Connect ช่วยบันทึก ติดตาม และจัดการข้อมูลสุขภาพได้ง่าย ด้วยมือถือเพียงเครื่องเดียว
โรคความดันโลหิตสูงอาจจะเป็นภัยเงียบที่ยากจะตรวจจับ แต่หากเรามีการเตรียมพร้อม รักษาสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงการหมั่นตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ เราก็สามารถจะป้องกัน และควบคุมเจ้า “ฆาตกรเงียบ” ตัวนี้ได้
ออมรอนหวังว่าทุกคนจะสามารถรักษาตัวให้พ้นภัยใน “วันความดันโลหิตสูงโลก” นี้กันนะ
------------------------------------------------------------------------------
ติดต่อสอบถาม Omron Thailand โทร 02-021-5555
สั่งซื้อได้ที่ https://bit.ly/3jDK6Js
#ออมรอน #Omron #Omronhealthcare #AFIB #ความดันสูง #ความดัน
กลับสู่หน้ากิจกรรม